วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ต่างกันในความคิด

คิดต่าง
          คน เรามีสิ่งที่เหมือนกันและคล้ายคลึงกันหลายประการ แต่ในความเหมือนหรือความคล้ายคลึงกันก็จะมีความแตกต่าง แฝงอยู่ด้วยหลายประการเช่นกัน คนเราเกิดมาก็คือคนเหมือน กัน หากพิจารณาจากเชื้อชาติ วัฒนธรรม รูปแบบการดำเนินชีวิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถแยกความแตกต่างของคนออกเป็นกลุ่มๆ ได้ นอกจากนี้ ความแตกต่างของคนยังสามารถแยกได้เป็น รายบุคคลตามลักษณะของบุคลิกภาพของแต่ละคน ที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาตนเอง สามารถ พัฒนาจากการเรียนรู้ทางสังคมไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี คนทั่วไปจะมีลักษณะร่วมที่เหมือนกันในฐานะเป็นมนุษย์ จะมีลักษณะ บางส่วนที่คล้ายกับทุกคนในสังคม ในขณะเดียวกันก็จะมีคุณ-สมบัติที่พิเศษเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
        ในแต่ละช่วงเวลาของชีวิตคนเราก็จะมีความคิดที่แตกต่าง กันภายใต้สถานการณ์ที่แต่ละคนกำลังเผชิญอยู่ และการพัฒนา ความคิดของบุคคลก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ความเป็นอิสระ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ความขยันหมั่นเพียร ความตั้งใจ เข้าใจ และรู้จักตนเอง

คนเราต้องอยู่รวมกันในสังคม ต้องอาศัย แบ่งปัน พึ่งพา อาศัยซึ่งกันและกัน โดยความแตกต่างที่น่ากลัวมากที่สุด คือความแตกต่างทางความคิด เพราะทุกคนต่างมีความคิด มีความ อิสระในการคิด และความคิดก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของ แต่ละคน ซึ่งไม่มีใครรู้ใจเราดีเท่ากับตัวเราเอง แต่ก็มีหลายๆครั้งที่หลายๆ คนอาจไม่รู้ใจตัวเองในบางช่วงเวลา มันจึงเป็นเรื่อง ยากที่เราจะสามารถรู้ใจคนอื่นได้

       คนเราสร้างความแตกต่างทางความคิดให้คนอื่นรับรู้ได้ ด้วยการแสดงออกทางกายและวาจา หรือสรุปได้ว่า การแสดง-ออกที่คนอื่นสามารถมองเห็นหรือรับรู้ได้ เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความคิดที่เกิดขึ้นในใจของบุคคล และบ่อยครั้งที่ความคิดกับการแสดงออกไม่ตรงกัน หรือปากกับใจไม่ตรงกัน เราอาจทำให้ คนอื่นพึงพอใจ ชื่นชอบ ประทับใจ ทั้งๆ ที่ในใจเราอาจไม่พอใจ ไม่ชื่นชอบ ไม่ประทับใจ แต่อาจต้องแสดงออกไปเพราะด้วยเหตุผลนานาประการ สิ่งที่เราเห็น เราสัมผัส หรือเราได้ยิน มันอาจจะไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริงของคนคนนั้นก็ได้ ดังนั้น “อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น อย่าท้อถ้าไม่ได้ลงมือทำอย่างเต็มที่ จงเชื่อ และศรัทธาในความสามารถของตนเอง หากมัวแต่คิดว่าเราทำ ไม่ได้ เราก็ไม่มีวันทำได้”

       การคิดต่างมุม หรือคิดแปลกจากบุคคลอื่น ไม่ใช่เป็นความคิดที่สร้างความแตกแยกหรือความขัดแย้ง แต่เป็นอีกมุมมองที่สะท้อนถึงความพอดีที่เติมเต็มให้กันและกัน ให้สังคม ได้มีการพัฒนาและคนในสังคมได้มีการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข “เมื่อเรามองในมุมที่ต่างกัน ภาพที่เราเห็นย่อมจะไม่เหมือนกัน เหมือนกับที่บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด อาจจะ เป็นสิ่งที่ไม่มีความหมายอะไรเลยกับคนอีกคนหนึ่งก็ได้ เราจึง ไม่ควรนำความรู้สึกของเราไปตัดสินใคร”

        การคิดต่างของคนเรา ต้องเริ่มที่รู้จักคิดในสิ่งที่ถูกต้อง เชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเอง “ไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็จะมีคนคอย ติเตียนวิจารณ์เสมอ ดังนั้น หากเรารู้ว่าทำในสิ่งที่ถูก...ก็ทำไปเถอะ” คนเราต้องรู้จักการสร้างกำลังใจให้กับตนเองและคนรอบข้าง ไม่ใช่รอรับแต่กำลังใจจากคนอื่น เพราะปัญหาส่วนใหญ่ที่คนเราประสบมากที่สุด คือปัญหาที่เกิดจากตัวเราเอง หลวงวิจิตรวาทการ เคยกล่าวไว้ว่า “ไม่มีอะไรในโลกใบนี้ที่จะขัดขวางความเจริญของคนเท่ากับความไม่ไว้วางใจตัว เอง”

         คนบางคนเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมักจะมองไปที่ผู้อื่น เห็นความ ผิด ความไม่ดีของผู้อื่น แต่แท้จริงแล้วบางครั้งปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น โดยตนเองเป็นต้นเหตุ การมองตนเองพิจารณาตนเองและปรับปรุงตนเอง หรือปรับความนึกคิด ความเข้าใจของตนเองเสียใหม่ ถือเป็นการคิดต่างที่ส่งผลต่อการพัฒนาตนเอง และ สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข

ที่มา : สยามธุรกิจ
http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413373220

วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ความเชื่อโบราณของคนไทย ที่ควรรู้

ความเชื่อโบราณของคนไทย ที่ควรรู้
๑.) ห้ามใส่ ชุดสีดำเยี่ยมคนป่วย เพราะสีดำเป็นสีที่คนโบราณถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความทุกข์โศก การใส่ชุดดำไปเยี่ยมผู้ป่วยนั้นเป็นการแช่งให้ผู้ป่วยตายเร็วขึ้น (อ๊ายย๋ะ!!!)
๒.) จิ้งจกร้องทัก ห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด โดยถ้าเสียงนั้นอยู่ด้านหลังหรือตรงศีรษะให้เลื่อนการเดินทางแต่หากเสียง ร้องทักอยู่ด้านหน้าหรือซ้าย ให้เดินทางได้ จะทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นสะดวกสบาย
๓.) ตุ๊กแกร้องตอนกลางวัน เชื่อว่าจะมีเหตุร้ายเพราะตามปกติแล้วตุ๊กแกที่อาศัยในบ้านมักจะร้องตอนกลาง คืน ถ้าร้องตอนกลางวันถือเป็นลางบอกเหตุร้าย เนื่องจากคนโบราณเชื่อว่าตุ๊กแกคือ วิญญาณของปู่ย่าตายายที่ตายไปแล้วมาอาศัยอยู่ คอยคุ้มครองลูกหลานจากภัยอันตราย
๔.) นกแสกเกาะหลังคาบ้าน จะเกิดลางร้าย เพราะนกแสกเป็นนกที่ถือว่าให้ความอัปมงคล เนื่องจากโดยธรรมชาตินกแสกมักจะไม่มาปะปนอยู่ตามที่อยู่อาศัยของคน
๕.) ถ้านกถ่ายรดบนศรีษะ เชื่อว่าจะโชคร้าย หากกำลังจะออกเดินทางแล้วถูกนกถ่ายรดที่ศรีษะซะก่อน ให้หยุดการเดินทางทันที หรือเลื่อนกำหนดออกไปเป็นวันรุ่งขึ้น
๖.) เมื่อตัวเงินตัวทองคลานเข้าบ้าน ให้พูดแต่สิ่งดีๆ ไม่ให้ไล่
๗.) กลางคืนถ้าได้ยินเสียงร้องทักห้ามขานรับ เพราะเชื่อว่าเป็นเสียงของดวงวิญญาณอาจจะมาหลอนมาหลอกหรือเป็นการเชิญวิญญาณเข้าบ้าน
๘.) คนที่มีไฝที่ริมฝีปากล่าง ให้ระวังปากนำเคราะห์ เพราะพูดไม่คิด และมักเป็นคนใจร้อน อารมณ์รุนแรงขาดเหตุผลในการยับยั้งชั่งใจ
๙.) คนใดที่มีลักษณะผมหยิกๆ หน้าสั้นคอสั้น มักจะเจ้าชู้ (แต่เป็นความเชื่อขำๆนะ อันนี้ต้องคิดว่าต้องดูต่อจากภายในหัวใจ)
๑๐.) คนใบหูใหญ่มักร่ำรวยและมีบุญวาสนา คนใบหูหนาเป็นคนมีศีลธรรมคนใบหูบางเป็นคนโดดเดี่ยว ไร้บุญวาสนา
๑๑.) คนที่พูดจาหลายเสียงในการพูดคุยครั้งเดียวกันเป็นคนคบยาก เพราะหาความแน่นอนอะไรไม่ได้
๑๒.) คนหัวล้านมักจะเจ้าชู้และเจ้าเล่ห์ ซึ่งได้ต้นแบบมาจากขุนช้างในวรรณคดี ทำให้คนโบราณเชื่อว่า คนลักษณะแบบนี้จะมีนิสัยเหมือนขุนช้าง
๑๓.) เด็กทารกคนใดที่เกิดมาแล้วมีปาน คนโบราณเชื่อว่า ได้เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง (ชาติที่แล้ว) และถูกป้ายด้วยของตำหนิเอาไว้ หากเป็นปานแดงหมายถึงถูกป้ายด้วยปูนแดง และหากเป็นปานดำหมายถึงถูกป้ายด้วยถ่าน
๑๔.) ห้ามปลูกต้นไม้ที่วัดปลูกมาแล้ว (เช่น ไปเอาต้นไม้ที่อยู่ในวัดมาปลูกที่บ้าน) เพราะเชื่อกันว่า ต้นไม้ที่ขึ้นตามวัดหรือนำไปปลูกที่วัดเป็นของสูงและสมควรอยู่ในวัด หากนำมาปลูกที่บ้านจะทำให้บ้านนั้นตกอับ
๑๕.) ห้ามตัดผมวันพุธ เพราะเชื่อว่าการตัดผมวันพุธจะทำให้เกิดอัปมงคลกับชีวิต เพราะอย่างนี้ ร้านตัดผมหลายร้านมักจะนิยมหยุดทำการในวันพุธ
๑๖.) หากตาซ้ายกระตุก เชื่อว่ามีเคราะห์ โชคร้ายผิดหวัง ถ้าตาขวากระตุกถือว่าโชคดี แต่ถ้าเป็นในช่วงกลางคืน ตาขวากระตุกจะไม่ดี จะมีเคราะห์มีเหตุร้ายเกิดขึ้น แต่ถ้าหากเป็นตาซ้ายกระตุกจะมีโชคลาภจากเพื่อน
๑๗.) หากสัตว์ป่าเข้าบ้านเชื่อว่าจะนำความอัปมงคลมาให้ ควรจุดธูปเทียน ดอกไม้และเชิญให้ออกจากบ้าน พร้อมกับขอพรให้นำพาสิ่งดีงามมาให้
๑๘.) ห้ามเผาศพวันศุกร์ เพราะคนโบราณถือว่าการเผาศพในวันศุกร์จะให้ทุกข์กับคนเป็นญาติ เนื่องจากวันศุกร์เป็นวันแห่งโชคลาภ เหมาะกับงานมงคลมากกว่า
๑๙.) ในขณะที่กำลังสางผม หากหวีเกิดหักคาผม จะเกิดเรื่องไม่ดีตามมา ให้นำหวีนั้นทิ้งไปเลย (ซื้อมาเป็นพันเป็นหมื่นก็อย่าเสียดาย) ไม่ให้เก็บไว้ใช้หรือนำไปซ่อมมาใช้ใหม่
๒๐.) ตอนกลางคืนถ้าได้กลิ่นธูปลอยมา คนโบราณเชื่อกันว่า เป็นวิญญาณของญาติสนิทภายในครอบครัวมาหา
๒๑.) ผึ้งทำรังในบ้าน เชื่อว่ามีโชค อย่าไปไล่หรือทำลายเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้เกิดความหายนะ เพราะผึ้งเป็นแมลงนำโชคที่ขยันการทำงาน
๒๒.) การปลูกต้นว่านชี้ชะตาได้ โดยถ้าต้นว่านเจริญงอกงาม ทำนายว่าการค้าจะงอกงาม แต่ถ้าต้นว่านแห้งเ่ยว ทำนายว่าการค้าจะไปไม่รอด
๒๓.) ก่อนออกจากบ้านให้ตั้งสติและก้าวเท้าขวาออกก่อนเท้าซ้าย จะนำโชคดีมาให้ เพราะเชื่อว่าร่างกายมนุษย์เป็นพลังงานลบที่อ่อนแอกว่าด้านขวา
๒๔.) หากนั่งล้อมวงกินข้าวกันอยู่ และเกิดมือชนกันขณะเอื้อมไปตักกับข้าว เชื่อกันว่าจะมีแขกมาเยือนให้เตรียมตัวต้อนรับ
๒๕.) อย่าเคาะจานข้าว เพราะเชื่อว่าจะเป็นการเรียกวิญญาณที่พเนจร เมื่อได้ยินเสียงเราเคาะจาน ก็จะพากันมาแย่งเรากินข้าว (บางคนกินข้าวจะรู้สึกว่ากินไม่อิ่ม)
๒๖.) กลางคืนห้ามกวาดบ้าน เพราะเชื่อว่าจะเป็นการกวาดเงินกวาดทองที่สะสมมาตั้งแต่ตอนเช้าออกไปหมดซึ่ง อาจเป็นได้ว่าเมื่อก่อนไม่มีไฟฟ้าตอนกลางคืนมืดมาก การกวาดบ้านตอนกลางคืนจึงไม่ปลอดภัย
๒๗.) ไม่ควรมีรูปภาพหรือรูปปั้นยักษ์ประดับตกแต่งบ้าน เพราะจะทำให้คนในบ้านทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยและทำให้มีแต่เรื่องเดือดร้อน
๒๘.) อย่าตั้งเตียงนอนโดยเอาหัวเตียงหันไปชนกับห้องน้ำ เพราะจะทำให้โชคลาภหนีหาย และอย่าตั้งเตียงนอนโดยหันปลายเตียงตรงกับประตูทางเข้าพอดี เพราะจะทำให้ฝันร้าย
๒๙.) การแบ่งอาหารและน้ำให้แก่สุนัขหรือแมวจรจัดที่หิวโหย หรือการให้ที่พักพิงแก่สัตว์เหล่านี้ในวันฝนตกเป็นอานิสงส์มหาศาล
๓๐.) อย่าปล่อยให้ครัวสกปรก เพราะจะทำให้อับโชค ขาดเงิน ขาดทอง
๓๑.) อย่าให้ของขวัญคนรักหรือเพื่อนสนิทเป็นผ้าเช็ดหน้า เพราะถือว่าเป็นลางไม่ดี หากมอบให้แล้วจะถือว่าเป็นลางต้องจากกันหรือมีเรื่องทะเลาะกัน
๓๒.) ถ้าปล่อยให้กระจกในบ้านขุ่นมัว จะทำให้ดวงชะตาของคนในบ้านจะหม่นหมองทำอะไรก็ไม่ขึ้น จึงต้องหมั่นเช็ดกระจกสม่ำเสมอ
๓๓.) วันโกน วันพระวันเกิด และวันเข้าพรรษา ควรงดมีเพศสัมพันธ์ เพราะถือว่าเป็นวันบิรสุทธิ์ (คนที่อยู่ในวัยเรียนอย่าแม้แต่จะคิด)
๓๔.) หากเดินไปเจอเหรียญตกให้เก็บเป็นเหรียญนำโชค หากมองผ่านเลยไป จะเหมือนเป็นการดูถูกเงินน้อย ทำให้อับโชคในช่วงเวลานั้นๆ (เก็บให้ตำรวจก็ดีนะเออ)
๓๕.) การสวมแหวนนิ้วกลางข้างขวา ถือเป็นการเสริมดวงการเงินและบารมี ส่วนการสวมแหวนนิ้วนางหรือนิ้วก้อยถือเป็นการเสริมเสน่ห์และเสริมดวงความรัก
๓๖.) ห้ามสาวโสดร้องเพลงในครัว เพราะจะทำให้มีแฟนเป็นคนแก่ หรือหาแฟนไม่ได้ แต่ถ้าตำครกเสียงดัง จะมีหนุ่มมาสู่ขอ
๓๗.) การทำบุณโลงศพอนาถาที่ไร้ญาติ จะเสริมชะตาของเราให้กล้าแข็ง ทำให้ทุกข์และเคราะห์เบาบางลงไปได้
๓๘.) ควรหมั่นดูแลหิ้งพระให้สะอาดสม่ำเสมอ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าเป็นการทำให้เกิดความอับโชคหรือเสื่อมลาภ เสื่อมยศได้
๓๙.) ในบ้านควรมีไข่และส้มในตะกร้าเสมอ เพื่อเรียกความสมบูรณ์พูนสุขเข้าบ้าน
๔๐.) ห้ามหญิงมีครรภ์ไปงานศพ เพราะเกรงว่าวิญญาณจะสามารถเข้าไปรบกวนทารกในครรภ์ ทำให้เกิดอันตรายได้
๔๑.) ห้ามนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตกจะทำให้นอนฝันร้าย ตื่นขึ้นมาไม่สดชื่น
๔๒.) ถ้าสร้อยคอขาดออกจากคอหรือหลุดออกมา จะมีเหตุให้พบเรื่องร้าย
๔๓.) ห้ามทักเด็กแรกเกิดที่ยังเล็กว่าน่ารัก เพราะอาจทำให้วิญญาณอิจฉา ลักพาตัวไป
๔๔.) ห้ามตัดเล็บกลางคืน วิญญาณบรรพบุรุษจะอยู่ไม่เป็นสุข เพราะสมัยก่อนการตัดเล็บจะใช้มีดเจียนหมาก หรือมีดเล็กๆ จึงห้ามตัดเล็บในเวลากลางคืน เพราะอาจะเป็นอันตราย
๔๕.) จะก้าวขึ้นหรือลงบันได ให้ก้าวทีละก้าวทีละขั้น อย่าก้าวทีเดียวสามชั้น จะทำให้ทำมาหากินไม่สำเร็จ เหมือนไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ให้ค่อนเป็นค่อยไป อย่าทำอะไรที่ให้เกินความสามารถ หรือข้ามขั้นตอน
๔๖.) ห้ามหญิงท้องไปดูคนคลอดลูกจะทำให้คลอดลูกยาก เพราะหากหญิงมีครรภ์ไปดูคนอื่นคลอดลูกแล้วเห็นภาพอาการเจ็บปวดของการคลอดอาจ จะทำให้กลัวและเกิดอาการเสียขวัญ
๔๗.) โต๊ะเครื่องแป้งที่มีกระจกเงา หรือบางกระจกเงาทั้งหลาย ไม่ควรนำมาวางตั้งให้ตรงกับปลายเตียงหัวเยงหรือเหนือเพดาน เพราะจะทำให้หมกหมุ่นอยู่กับเรื่องเพศ นอนหลับไม่สนิท และมักฝันร้ายอยู่บ่อยๆ
๔๘.) ฝนตั้งเค้า ให้ปักตะไคร้คว่ำลงดินกลางที่โล่งแจ้ง จะทำให้ฝนหยุดตก
๔๙.)อย่าลูบศรีษะของเด็ก โดยเฉพาะเด็กไทย เพราะศีรษะถือเป็นส่วนศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรให้ใครลูบเล่น
๕๐.) ฝันว่างูรัด ทำนายว่าคนโสดจะได้พบเนื้อคู่เร็วๆนี้ฝันว่างูกัดทำนายว่าศัตรูเพศตรงข้ามจะคิดร้ายหรือได้รับเคราะห์จะเพื่อนบ้าน
๕๑.) ฝันเห็นคนตายหรือศพ ทำนายว่าจะได้ลาภจากเสี่ยงโชค
๕๒.) ฝันว่าฟันหักทำนายว่าจะสูญเสีย โดยถ้าฝันว่าฟันบนหัก ทำนายว่า จะเสียญาติผู้ใหญ่ข้างฝ่ายบิดา ถ้าฟันล่างหัก ทำนายว่าจะเสียญาติผู้ใหญ่ข้างมารดา
๕๓.) ฝันว่าจูบกับคนรัก จะได้รับเคราะห์เล็กๆน้อยๆจากคนใกล้ตัว
๕๔.) ห้ามฉลองก่อนวันเกิด เพราะอาจหมายถึงการรีบเร่งไปสู่ความตาย
๕๕.) ภายในบ้านไม่ควรมีประตู ๓ บาน ตรงกันหรือเหลื่อมล้ำตรงกันเพียงนิดเดียว เพราะเป็นสัญลักษณ์ของประตูจาก ๓ โลก ทำให้วิญญาณเดินผ่านมาได้
๕๖.)คางคกขึ้นบ้านถือเป็นลางดี แสดงว่าบ้านนั้นกำลังจะมีโชค
๕๗.) มือซ้ายกระตุก เชื่อว่ามีลางร้ายมีเหตุจะต้องเสียเงินเสียทองมือขวากระตุกเชื่อว่าเป็นลาง ที่ดีมาก จะได้รับโชคลาภ และอาจได้ลาภลอยจาการเสี่ยงโชค
๕๘.) ถ้านกในกรงที่เลี้ยงไว้ร้องในเวลากลางคืนเชื่อว่าจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง
๕๙.) ผู้หญิงระหว่างมีประจำเดือน ไม่ควรก้าวล้ำไปในวัด เพราะอาจก่อให้เกิดความอัปมงคล
๖๐.) ความฝันในตอนเช้ามักเป็นความจริง เพราะคนโบราณเชื่อว่าเทวดามาโปรดสัตว์ซึ่งเคยเป็นญาติมิตรของเรานั่นเอง

ที่มาข้อมูล : นิทรรศน์รัตนโกสินทร์
ที่มา : smart sme