วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ข้อคิดที่แท้จริงตามบทความพุทธพจน์

21-06-2561
วันนี้ซินะ..อายุครบ 62 แล้ว
ไม่มีอะไรแตกต่าง..อายุมากขึ้นโรคภัยไข้เจ็บก็รุมเร้ามากขึ้น
 ความอ่อนแอทางด้านร่างกาย จิตใจ ก็มีมากขึ้นความเหนื่อยล้าของร่างกายมีมากขึ้น

ได้ข้อคิดที่แท้จริงตามบทความพุทธพจน์ อย่างหนึ่ง คือ

                             เกิดคนเดียว ตายคนเดียว
 (แต่ที่เติมคือ ต้องอยู่คนเดียวให้ได้)
     สัจธรรมของชีวิต ที่ทุกคนต้องยอมรับเวลาเกิด ก็เกิดมาลำพังคนเดียว ต่างคนต่างเกิด เมื่อเวลาตาย ก็ตายไปคนเดียว ให้รักกันผูกพันกัน อย่างลึกซึ้งขนาดไหน ก็ไม่มีใครตายตามไปด้วย เหมือนกรรม ก็เป็นของคนเดียวเช่นกัน จะแบ่งปันให้ใครไม่ได้ กรรมใครกรรมมัน คิดดี ทำดีก็ได้กับตัวเอง
     ในส่วนของ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ไม่มีใครจำใครได้ว่า เกิดเป็นญาติกันมาก่อน จึงถือว่าเกิดมาคนเดียว และตายก็ไปคนเดียวจริงๆ
      ดังพุทธภาษิตที่ว่า "เอโกว มัจโจ อัจเจติ เอโกว ชายะ เต กุเล สังโยคปะระมาเตวะ สัมโภคา สัพพะปาณินัง แปลว่า จะตายก็ไปคนเดียว จะเกิดก็มาคนเดียว ความสัมพันธ์ของสัตว์ทั้งหลาย ก็เพียงแค่ได้มาพบปะ เกี่ยวข้องกันเท่านั้นเอง"
      ดังนั้น จงรักตัวเอง ดูแลตัวเอง อย่าไปยึดมั่นถือมั่น ว่าคนนี้แม่ฉัน พ่อฉัน สามีภรรยาฉัน แฟนฉัน เพื่อนฉัน จนเกิดความรัก ความหวงแหน เมื่อต้องพลัดพรากจากกัน จึงทำให้เสียใจ อาลัยอาวรณ์ เกิดความทุกข์ตามมา ถ้าจะรักต้องรักให้เป็น นี่คือลำดับของความทุกข์ ที่ทุกคนมี
      แม้แต่สิ่งของ หรือสมบัติต่างๆ ไม่ได้ติดตัวเรา มาตั้งแต่เกิด ได้มาหลังจากเกิดแล้วทั้งสิ้น ยิ่งอายุมากขึ้นก็มีมากขึ้น ความยึดมั่นถือมั่นก็มากขึ้น ความทุกข์ก็มากขึ้น ตามไปด้วย
     เพราะฉะนั้น สิ่งที่ได้หลังจากเราเกิดแล้ว สิ่งเหล่านั้น ไม่ว่าจะพอใจ หรือไม่พอใจก็คือ "ความทุกข์" นั้นเอง

http://www.kalyanamitra.org/th/article_detail.php?i=8114